

Posted: June 21, 2021
Categories: Health and Knowledge
อยากมีหุ่นล่ำ ฟิตและเฟิร์ม เวย์โปรตีนช่วยคุณได้นะครับ แต่การทานเวย์โปรตีนให้เกิดประสิทธิภาพ อีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือการเลือกทานเวย์โปรตีนให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งข้อนี้ยังมีหลายคนที่สับสนกันอยู่เพราะเวย์โปรตีนไม่ได้มีแค่สูตรเดียว โดยสูตรยอดฮิตมีด้วยกันถึง 2 สูตร คือ คอนเซนเทรต และ ไอโซเลท แต่จะมีความต่างอย่างไรนั้นไปหาคำตอบกันได้เลย

เวย์โปรตีนคืออะไร ?
- เวย์โปรตีน (Whey Protein) คือ โปรตีนที่สกัดได้จากนมวัว เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเนยแข็ง หลังจากที่แยกคาร์โบไฮเดรตไขมันและโปรตีนเคซีน (Casein Protein) ออก ทำให้ได้โปรตีนบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้น
- เวย์โปรตีน มีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยตรง และเวย์โปรตีนยังพิเศษกว่าโปรตีนอื่นๆ ตรงที่ เป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่มีคุณภาพและครบถ้วนทั้ง 20 ชนิด

ขนาดรับประทาน
ตามปกติร่างกายจะต้องการโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ถ้าออกกำลังกายหนักๆ เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ สามารถเพิ่มปริมาณโปรตีนได้สูงถึง 1-2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน สำหรับ GNC เวย์โปรตีนคอนเซนเทรต ให้โปรตีน 24 กรัม ต่อ 1 สกู๊ป และ GNC เวย์โปรตีนไอโซเลท ให้โปรตีน 28 กรัม ต่อ 1 สกู๊ป
เวย์โปรตีนไอโซเลท เหมาะสำหรับ ?
- ผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่ต้องการคงความคมชัดของกล้ามเนื้อ โดยไม่เพิ่มน้ำหนัก
- ผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ต้องการความกระชับของรูปร่าง
DHA สารอาหารสำคัญสู่ลูกน้อย ผ่านน้ำนมแม่
Posted: June 18, 2021
Categories: Health and Wellness
|
สำหรับกรดไขมันอย่าง DHA หรือ Docosahexaenoic acid เป็นกรดไขมันจำเป็นชนิดหนึ่งในกลุ่ม โอเมก้า3 (Omega-3) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อลูกเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง
วิธีการรับ DHA ของทารก ก็คือ การได้รับผ่านคุณแม่ จากสิ่งที่คุณแม่รับประทานเข้าไปตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ และช่วงหลังคลอดผ่านทางน้ำนมแม่ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมลูกควรจะรับประทานอาหารที่มี DHA หรือน้ำมันปลา
สำหรับคุณแม่ที่ทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาซึ่งมี DHA ด้วยนั้น ควรรับประทานในช่วงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 1- 6 เดือนแรก และช่วงหลังคลอดไปแล้วประมาณ 1-2 เดือน หรือเมื่อหมดน้ำคาวปลา
โดยประโยชน์สำคัญของ DHA ที่คุณแม่ทุกคนควรทราบก็มีด้วยกันดังนี้ครับ- สำหรับทารกหลังคลอดช่วง 6 เดือนแรก จำเป็นต้องได้รับ DHA ผ่านน้ำนมแม่อย่างเพียงพอเพื่อสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท รวมทั้งส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท
- เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง จอประสาทตา และกล้ามเนื้อหัวใจ
- เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และเพิ่มประสิทธิภาพของทักษะกระบวนความคิด
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคสมาธิสั้น
- ในช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ปีแรก สมองของเด็กพัฒนาสูงสุดถึง 80 % เซลล์สมองจะขยายขนาด และมีการสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาทอย่างรวดเร็ว เพื่อเชื่อมให้เกิดการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง น้ำหนักสมองจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
นอกจาก DHA จะมีประโยชน์ต่อเด็กๆ แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผู้ใหญ่อย่างเราๆ ด้วยนะครับ โดย DHA ช่วยทำให้การทำงานของสมองในผู้ใหญ่ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วกรดไขมันประเภทนี้ร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองนะครับ เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องรับประทานอาหารที่มีกรดไขมัน DHA ซึ่งแหล่งอาหารที่จะพบ DHA ได้ก็คือ- ปลาทะเลในเขตน้ำเย็น เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาเฮร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแอนโชวี่ และปลาทูน่า
- สาหร่ายทะเล
- เมล็ดพืชตระกูลวอลนัท
- นมผง
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ปริมาณ DHA ที่เหมาะสมต่อวัน
- คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานน้ำมันปลาที่ให้ DHA อย่างน้อย 250 มิลลิกรัมต่อวัน ในช่วง 1-6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตรแล้ว 1-2 เดือน
ในผู้ใหญ่ปริมาณ DHA ที่แนะนำอยู่ที่ 250-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยอาจได้รับจากน้ำมันปลาสกัดประมาณ 2-6 กรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับปริมาณของ DHA/EPA ที่แสดงบนฉลากของน้ำมันปลา - GNC Fish Oil DHA 250 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ถ้าอยากตัวสูง ต้องอ่าน!
Posted: May 25, 2021
Categories: Health and Knowledge
|
Tags: สุขภาพ
สิ่งที่กำหนด “ส่วนสูง” นอกจากจะเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อส่วนสูงของเด็กๆ ในวัยเจริญเติบโตด้วย หากใครกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองตัวสูงขึ้น เราก็มีเคล็ดลับมาแนะนำ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรทำ และไม่ควรทำ
DO – สิ่งที่ควรทำ
1.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และตรงเวลา 3 มื้อ
- เน้นทานอาหารที่มีแคลเซียมเพราะแคลเซียมจะเป็นองค์ประกอบหลักของกระดูกโดยตรง แหล่งธรรมชาติที่พบได้แก่ นม, โยเกิร์ต, เนื้อ, ไข่, ผักสีเขียวเข้ม, กุ้งแห้ง และปลาตัวเล็ก เป็นต้น
- เน้นทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เมื่อตัวสูงขึ้น กล้ามเนื้อก็จะถูกขยายเช่นกัน หากขาดโปรตีนไป อาจส่งผลให้กระดูกคดงอได้ แหล่งธรรมชาติที่พบได้แก่ เนื้อสัตว์, นม , ถั่ว และ ไข่
- วิตามินดีในแสงแดดและแมกนีเซียม จะช่วยให้ร่างกายดูซึมแคลเซียมได้ดี แหล่งธรรมชาติที่พบแมกนีเซียม ได้แก่ เมล็ดฟักทอง, เมล็ดดอกทานตะวัน, งา, อัลมอนต์, กล้วย, ถั่ว, นม, บลอกโคลี
- แอล-อาร์จินีน ช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต (โกรท ฮอร์โมน) และช่วยลดความเสี่ยงของร่างกาย แหล่งธรรมชาติที่พบ ได้แก่ ถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, อัลมอนด์, วอลนัท, เม็ดมะม่วงหินมะพาน, เนื้อสัตว์, ปลา, กุ้ง และไข่ เป็นต้น
- แอล-ออร์นิทีน ช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต (โกรท ฮอร์โมน) และช่วยให้พลังงานกับกล้ามเนื้อ แหล่งธรรมชาติที่พบได้แก่ เนื้อสัตว์, ปลา, ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ เป็นต้น
2.ดื่มนมให้ได้แคลเซียมเพียงพอต่อวัน
วัยรุ่นควรได้รับแคลเซียม 1,200 – 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน เท่ากับ นม 5-6 กล่อง (เฉลี่ย 1 กล่อง ขนาด 25 มิลิลลิตร ในแคลเซียม 226 มิลลิกรัม)
3.นอนหลับให้เป็นเวลาและเพียงพอ
ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตขณะนอนหลับช่วงกลางคืน เด็กๆ และวัยรุ่น ควรเข้านอนให้ตรงเวลา และหลับสนิทนาน 8-9 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตได้ดี
4.ออกกำลังกายเพิ่มความสูง
เช่น บาสเก็ตบอล, ว่ายน้ำ, แทรมโพลีน, โหนบาร์, กระโดดเชือก กีฬาประเภทยืดเหยียดตัว จะช่วยให้เราตัวสูงขึ้น
5.ฝึกยืนและนั่งหลังตรง
การยืนหรือนั่งหลังค่อม ทำให้กระดูกสันหลังคด จะยิ่งทำให้เราดูเตี้ยลง และเสียบุคลิกอีกด้วยHow To ลดน้ำหนักแบบง่ายๆ สำหรับคนไม่มีเวลา
Posted: May 25, 2021
Categories: Weight Management
ฟิตหุ่นให้เป๊ะสมใจ ใครๆ ก็อยากทำใช่ม่ะ? แต่สำหรับสาวออฟฟิศที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาเข้ายิมเหมือนคนอื่นเค้า มาค่ะซิส! เรามีเคล็ดลับลดน้ำหนักให้หุ่นแซ่บแบบฉบับสาวไม่มีเวลามาฝากจ้า
สำหรับคนที่ไม่มีเวลา การลดน้ำหนักของสาวๆ ก็ต้องเน้นไปที่การรับประทานอาหาร ซึ่งทุกคนต้องปรับการทานอาหารให้ได้นะคะ ส่วนต้องปรับยังไงถึงจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ ไปดูกัน
1.ทานอาหารเช้า
มื้อเช้าสำคัญมากๆ การงดอาหารเช้าอาจทำให้ร่างกายพลาดสารอาหารที่จำเป็น และในระหว่างวันคุณอาจหิวจนต้องทานจุบจิบ หรืออาจทำให้คุณหิวมากจนทานหนักในมื้ออื่นๆ (โดยเฉพาะมื้อเย็น)
2.ไม่อดอาหาร
ลดน้ำหนักไม่ใช่การอดอาหาร แต่ควรลดการทานอาหารบางอย่าง เช่น อาหารทอด ผัด หรืออาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงลดปริมาณอาหาร ลดทานเค็ม และเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำ ที่สำคัญต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่จากผักและผลไม้ อีกทั้งควรปรับให้การทานอาหารเป็นสูตร 2:1:1 คือ สัดส่วนใน 1 มื้อ แบ่งเป็น ผัก 2 ส่วน ข้าว 1 ส่วน เนื้อสัตว์ 1ส่วน จะดีต่อสุขภาพด้วยจ้า
3.งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนม และของหวาน
หากคุณชอบดื่มชา หรือกาแฟ ควรดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาล นมข้นหวาน หรือครีมเทียม รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานของหวาน และขนมขบเคี้ยวทั้งหลายแหล่
4.สูตรลดน้ำหนัก
ในปัจจุบันมีมีสูตรการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่น IF (Intermittent Fasting) ซึ่งเป็นการจำกัดระยะเวลาการทานอาหาร โดยถือเป็นหนึ่งวิธีที่หลายคนคอนเฟิร์มว่าได้ผลจริง
5.ทานมื้อเย็นแบบแคลอรี่ต่ำ และไม่ทานมื้อดึก
เปลี่ยนมื้อเย็นให้เป็นมื้อที่มีแคลอรี่ต่ำที่สุด ขณะเดียวกันก็ควรทานมื้อเย็นก่อนเข้านอนประมาณ 4-6 ชม. หากรู้สึกหิวกลางดึกให้เลือกทานของว่างแคลอรี่ต่ำ เช่น ผลไม้ที่ไม่หวานจัด โยเกิร์ตไขมันต่ำ
6.เพิ่มตัวช่วยในการลดน้ำหนัก- Citrimax สารสกัดจากส้มแขก ยับยั้งการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันสะสม ช่วยควบคุมความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานจุบจิบ
- Phase สารสกัดจากถั่วขาว ช่วยบล็อกแป้ง บล็อกน้ำตาล ไม่ให้กลายเป็นไขมันสะสมในร่างกาย เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบทานอาหารประเภทคาร์โบไอเดรต หรือเบเกอรี่ของหวานต่างๆ
- Total LIN CLA ช่วยลดปริมาณเนื้อเยื่อไขมันที่สะสม และรักษามวลกล้ามเนื้อ ป้องกันการสะสมไขมันใหม่
- Whey Isolate เวย์โปรตีน สูตรไอโซเลท ดื่มทดแทนมื้อเย็น หรือเวลาหิว ช่วยคลายหิว อิ่มท้อง 1 สกู๊ป ให้โปรตีนสูง 28 กรัม แค่ 140 แคลอรี่ ไม่มีแป้ง และไขมัน ดื่มอร่อยไม่ต้องกลัวบวม มีทั้งรสวนิลลา และช็อคโกแลต
ทั้งนี้สำหรับสาวๆ ที่มีเวลาสักนิด หันมาออกกำลังกายเพิ่มกันสักหน่อยก็ดีนะคะ เพราะจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและยังช่วยให้รูปร่างเฟิร์มกระชับด้วยค่ะ ^^ สนใจสินค้าจีเอ็นซีกลุ่มควบคุมน้ำหนัก คลิก >DON'T – สิ่งที่ไม่ควรทำ
1.ดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มทั้ง 2 ชนิดเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ส่งผลต่อการเจริญเติบโต มิหนำซ้ำยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนอีกด้วย2.ดื่มชา กาแฟ
เพราะมีส่วนผสมของคาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตขณะนอนหลับ
3.ยกของหนัก สะพายกระเป๋าหนักมากๆ
ไม่ควรใช้มือหรือบ่าข้างใดข้างหนึ่งสะพายกระเป๋านานๆ ควรสลับข้างให้ร่างสมดุล เพราะถ้าร่างกายทำงานหนักอยู่ข้างเดียวอาจส่งผลให้กระดูกคดงอ และน้ำหนักของกระเป๋าก็มีส่วนเป็นตัวถ่วงทำลายกระดูก ทำให้หลังค่อม4.เครียดจัด
เพราะความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่สินค้าแนะนำ
GNC L-Arginine & L-Ornithine 60 Tablets
GNC Calcimate Plus 800mg 120 Tablets
GNC Whey Protein - Vanilla 850G
GNC L-Arginine & L-Ornithine 60 Tablets
GNC Calcimate Plus 800mg 120 Tablets
GNC Whey Protein - Vanilla 850G
ก่อนนวดต้องรู้ 5 จุดนวดอันตราย ควรระวัง!
Posted: April 21, 2021
Categories: Health and Knowledge
ใครที่เป็นสายนวดต้องระวัง เพราะหากไปนวดบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง นวดแบบผิดวิธี ก็อาจก่อให้เกิดการเสียชีวิตได้ ซึ่งทาง “อ.ธนภักษ์ เชาวน์พีระพงศ์” จากสถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเผยถึง 5จุดนวดที่อาจเสี่ยงอันตราย ดังนี้
1.บริเวณขมับ เป็นบริเวณที่มีการต่อกันของกระดูกจะไม่แข็งแรงมาก กล้ามเนื้อที่คลุมศรีษะไม่ได้หนา ถ้ากดนวดด้วยความรุนแรง อาจทำเกิดอาการบาดเจ็บได้
2.บริเวณคอ จะมีหลอดเลือดแดงใหญ่ซึ่งจะส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง หากมีการกดบริเวณหลอดเลือดนั้นเป็นเวลานาน อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการหมดสติหรือเป็นลมได้
3.บริเวณรักแร้ จะมีเส้นประสาทเป็นจำนวนมากที่เลี้ยงบริเวณแขน หากกดด้วยความรุนแรงอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทนั้น จะส่งผลให้เกิดการชาและอ่อนแรงบริเวณที่แขนได้
4.บริเวณท้อง จะเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เพราะภายในช่องท้องมีอวัยวะและหลอดเลือดต่างๆ หากกดด้วยความรุนแรงมากเกินไป อาจจะส่งผลให้ปวดท้องได้ และในผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดแดงในช่องท้องโป่งพองควรหลีกเลี่ยงกดนวดบริเวณช่วงท้อง เพราะจะทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นมีการปริแตก ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้
5.นวดบิดดัด ต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะผิดปกติทางกระดูก เช่น กระดูกพรุน หรือมะเร็งกระดูก หากบิดดัดรุนแรงอาจทำให้กระดูกมีการแตกหักได้
นวด ยิ่งเจ็บ ยิ่งดีจริงไหม ?
- ไม่จริง การจะหายจากอาการปวดไม่จำเป็นต้องนวดแบบเจ็บๆ เสมอไป เพราะตามหลักการแพทย์แผนไทยจะมีในเรื่องของการแต่งรสมือซึ่งจะเป็นการปรับการลงน้ำหนักในจุดต่างๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละผู้ป่วย จะช่วยลดอาการเจ็บหรือระบมหลังจากนวดได้โดยเมื่อเราได้รับการนวดแบบเจ็บๆ อาจทำให้เกิดการเกร็งต้านและกลั้นหายใจนำไปสู่อาการเป็นลมหมดสติได้
ใครที่ไม่ควรนวด?
1.ผู้ที่มีไข้สูง2.ผู้ป่วยกระดูกหักแตกร้าวมีแผลติดเชื้อ ซึ่งต้องรักษาภาวะดังกล่าวให้หายดีก่อน
นวดอย่างไรให้ปลอดภัย?
1.สถานที่ให้การบริการต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานสถานพยาบาลการประกอบโรคศิลปะ หากมีข้อสงสัยเราสามารถนำชื่อสถานบริการนั้นๆ ไปค้นหาในเว็บไซต์ของสำนักงานสถานพยาบาลได้2.ผู้ให้บริการต้องมีใบประกอบวิชาชีพอาชีพหรือใบรับรอง
3.ผู้ใช้บริการต้องทราบว่าตัวเองมีโรคประจำตัว หรือป่วยเป็นอะไร และต้องแจ้งทางผู้ให้บริการทุกครั้ง เพื่อจะจัดหาแนวทางในการดูแลภาวะของเราได้อย่างเหมาะสม
หากสนใจสินค้าสำหรับดูแลกล้ามเนื้อ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง >
1. GNC Magnesium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว และต้านการเกร็งของกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูกและลดอาการตะคริว





